S&P 500: กำลังพุ่งขึ้นต่อ หรือถึงเวลาสะท้อนความเป็นจริง?
ดัชนี S&P 500 กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงหลายสัปดาห์ ล่าสุดก็ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ประมาณ 6,388 จุดเมื่อวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2025 นักลงทุนยังคงตื่นเต้นกับกระแสปัญญาประดิษฐ์ (AI) ผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ดูเหมือนจะหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในตอนนี้ แต่เมื่อราคาขึ้นมาสูงขนาดนี้ และตัวชี้วัดแรงส่งเริ่มตึงตัว เทรดเดอร์บางคนจึงตั้งคำถามว่า: แนวโน้มขาขึ้นนี้จะไปต่อได้อีกไหม หรือถึงเวลาพักฐานแล้ว?
กราฟบอกอะไรเรา
ลองดูกราฟรายวันล่าสุด แล้วคุณจะเห็นสัญญาณได้ชัดเจน RSI อยู่เหนือระดับ 71 ซึ่งถือว่าอยู่ใน “เขตซื้อมากเกินไป” ตามคำเรียกของเทรดเดอร์ แม้จะไม่ได้หมายความว่าตลาดจะร่วงเสมอไป แต่ก็มักปรากฏหลังจากที่ราคาพุ่งแรงเกินไปในระยะสั้น
กราฟรายวัน S&P 500 – RSI เข้าสู่โซนซื้อมากเกินไป และ MACD เริ่มอ่อนตัว

ที่มา: TradingView. ดัชนีทั้งหมดแสดงผลตอบแทนรวมเป็นดอลลาร์สหรัฐ ผลตอบแทนในอดีตไม่สามารถใช้คาดการณ์ผลลัพธ์ในอนาคตได้ ข้อมูล ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2025
นอกจากนี้ยังมี MACD ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดแรงส่ง ที่เริ่มแสดงอาการชะลอตัวตั้งแต่เดือนมิถุนายน และเส้นกำลังเข้าใกล้จุดตัดขาลง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มขาขึ้นเริ่มอ่อนแรง ในขณะเดียวกัน ปริมาณการซื้อขายก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น แม้ราคาจะทำจุดสูงสุดใหม่ จำนวนผู้เข้าร่วมตลาดกลับไม่ได้เพิ่มตาม หากราคาพุ่งขึ้นแต่ปริมาณลดลง นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าตลาดเริ่มอ่อนแอจากภายใน
ทั้งหมดนี้บ่งชี้ว่า แม้แนวโน้มขาขึ้นจะยังไม่จบ แต่ก็เริ่มอยู่บนเส้นบางๆ มากขึ้นกว่าเดิม
แรงส่ง หรือ อ่อนล้า?
ลองพิจารณาทั้งสองมุมมองกัน
ในฝั่งมองบวก แรงส่งสามารถขับเคลื่อนตัวมันเองได้ หุ้นเทคโนโลยียังประกาศผลประกอบการที่แข็งแกร่ง เงินเฟ้อชะลอตัว และไม่มีการขึ้นดอกเบี้ยในระยะสั้น ตอนนี้ราคากำลังอยู่ในพื้นที่ใหม่ที่ไม่มีแนวต้านทางเทคนิค และเมื่อดูแนวโน้มจากกรกฎาคม 2023 ถึงกรกฎาคม 2025 ก็ถือว่าแข็งแกร่งมาก ดัชนีอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50, 100 และ 200 วัน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วถือว่าแนวโน้มขาขึ้นมีพื้นฐานรองรับ
แนวโน้มระยะยาวของ S&P 500 – ราคาสูงกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่หลักทั้งหมด

ที่มา: TradingView. ดัชนีทั้งหมดแสดงผลตอบแทนรวมเป็นดอลลาร์สหรัฐ ผลตอบแทนในอดีตไม่สามารถใช้คาดการณ์ผลลัพธ์ในอนาคตได้ ข้อมูล ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2025
แต่ก็มีข้อควรระวังเช่นกัน เมื่อตลาดไต่ระดับห่างจากเส้นแนวโน้มมากเกินไป เช่นที่เห็นตอนนี้ อาจเป็นสัญญาณว่าราคาถูกดันขึ้นเกินจริง ขณะนี้ S&P อยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันถึง 8-9% ซึ่งเป็นระดับที่ในอดีตมักทำให้นักลงทุนระวังตัวมากขึ้น และ RSI ระยะยาวก็แสดงสัญญาณซื้อมากเกินไปเช่นกัน
ครั้งล่าสุดที่ RSI อยู่ในระดับนี้ ตลาดก็เริ่มชะลอตัวในเวลาไม่นาน นอกจากนี้ MACD ก็กำลังอ่อนแรง และถ้ายังคงแบนราบเช่นนี้ก็อาจนำไปสู่สัญญาณตัดลง คล้ายกับว่าตลาดยังคงเร่งเครื่องขึ้นเขา แต่เครื่องยนต์เริ่มไม่แรงเท่าเดิม มันไม่ใช่สัญญาณเตือนภัยขั้นสูงสุด แต่ก็ควรเหยียบเบรกเบาๆ แล้วล่ะ
สิ่งที่เทรดเดอร์กำลังจับตา
ตอนนี้ทุกสายตากำลังจับจ้องไปที่แนวรับและแนวต้านที่สำคัญ
แนวต้านแรกคือจุดสูงสุดล่าสุดบริเวณ 6,370 หากดัชนีฝ่าแนวนี้ได้พร้อมปริมาณซื้อขายที่แข็งแกร่ง ฝั่งกระทิงยังมีโอกาสไปต่อ แต่หากราคาหลุดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน (อยู่แถวๆ 6,108 จุด) นั่นถือเป็นสัญญาณเตือนแรก และหากร่วงลงลึกถึงเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ประมาณ 5,831 จุด ก็จะเป็นสัญญาณเตือนที่รุนแรงยิ่งขึ้น
มุมมองจาก MACD และปริมาณ – สัญญาณแรกของแรงซื้อที่เริ่มอ่อนแรง

ที่มา: TradingView. ดัชนีทั้งหมดแสดงผลตอบแทนรวมเป็นดอลลาร์สหรัฐ ผลตอบแทนในอดีตไม่สามารถใช้คาดการณ์ผลลัพธ์ในอนาคตได้ ข้อมูล ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2025
เครื่องมือวัดแรงส่งจะช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินทิศทางต่อไป หาก RSI ยังคงอยู่เหนือ 60 และ MACD ทรงตัวได้ดี อาจเป็นเพียงการพักฐานเพื่อไปต่อ แต่หาก RSI หลุดต่ำกว่า 60 และ MACD ตัดลงอย่างชัดเจน นั่นอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการปรับฐานที่แท้จริง
บทสรุป
แนวโน้มของดัชนี S&P 500 ยังเป็นขาขึ้น แต่การปรับตัวขึ้นเริ่มดูตึงตัวมากขึ้น ตัวชี้วัดแรงส่งแสดงสัญญาณอ่อนแรง และปริมาณการซื้อขายไม่ได้สนับสนุนมากนัก แม้ไม่ใช่สัญญาณว่าตลาดกำลังพังทลาย แต่นี่ก็เป็นช่วงที่ควรระวัง ปรับระดับจุดตัดขาดทุน และเตรียมพร้อมเผื่อเกิดการพักฐานในเร็วๆ นี้