อะไรคือการเทรดฟอเร็กซ์ และมันทำงานอย่างไร?
คุณเคยถามตัวเองไหมว่า “อะไรคือการเทรดฟอเร็กซ์ และมันทำงานอย่างไร” หรือ “การเทรดสกุลเงินทำงานอย่างไร?” จริง ๆ แล้วคุณอาจเคยมีส่วนร่วมในการเทรดฟอเร็กซ์โดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ เช่น เวลาคุณเดินทางไปต่างประเทศและแลกเงินเป็นสกุลอื่น — นั่นก็คือการเทรดฟอเร็กซ์ในชีวิตจริง ความแตกต่างคือ บางคนแลกเปลี่ยนเงินเพื่อการท่องเที่ยว แต่บางคนทำเพื่อสร้างกำไร แล้วจริง ๆ แล้ว การเทรดฟอเร็กซ์คืออะไร และมันทำงานอย่างไร? เราจะมาหาคำตอบกัน พร้อมทั้งเรียนรู้ความหมายของการเทรด CFD และดูตัวอย่างการเทรดฟอเร็กซ์กันต่อไป มาดูกันเลย!
ฟอเร็กซ์คืออะไร?

1) ความหมายของฟอเร็กซ์
การเข้าใจว่า “ฟอเร็กซ์คืออะไร” และ “มันทำงานอย่างไร” เป็นสิ่งสำคัญต่อการตัดสินใจเทรดอย่างมีข้อมูล คำว่า Forex มาจากคำเต็มว่า Foreign Exchange หรือ “การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ” นั่นเอง มันคือกระบวนการแลกเปลี่ยนสกุลเงินหนึ่งกับอีกสกุลหนึ่ง ตลาดฟอเร็กซ์ถือเป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดและมีสภาพคล่องสูงที่สุดในโลก โดยมีการซื้อขายกันหลายล้านล้านดอลลาร์ในแต่ละวัน
ตัวอย่างเช่น หากคุณคาดว่าเงินยูโรจะมีมูลค่าสูงขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ คุณก็สามารถซื้อยูโรไว้และขายออกภายหลังเพื่อทำกำไร — นี่คือหลักการพื้นฐานของการเทรดฟอเร็กซ์ ฟังดูง่ายใช่ไหม? แต่ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เราจะมาดูกันต่อไป
ตลาดฟอเร็กซ์สามารถสร้างโอกาสอันมหาศาลให้กับนักเทรดได้ แต่การเข้าใจการเคลื่อนไหวของตลาดคือสิ่งสำคัญในการตัดสินใจเทรดที่ถูกต้อง ตลาดนี้ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยภายนอกมากมาย เช่น ข่าวระดับโลก การเมือง เศรษฐกิจ หรือแม้แต่ภัยธรรมชาติ สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้มูลค่าของสกุลเงินเปลี่ยนแปลงได้อย่างมาก บางสกุลแข็งขึ้น บางสกุลอ่อนลง แต่หากคุณศึกษาข้อมูลและเข้าใจการเคลื่อนไหวของตลาดอย่างลึกซึ้ง ก็สามารถเปลี่ยนความรู้นั้นให้กลายเป็นโอกาสในการเทรดได้ 
อะไรคือการเทรดฟอเร็กซ์ และมันทำงานอย่างไร: การเทรดสกุลเงิน
เมื่อเราเข้าใจพื้นฐานแล้ว มาดูกันให้ลึกขึ้นว่า “อะไรคือการเทรดฟอเร็กซ์ และมันทำงานอย่างไร” เมื่อถูกนำมาใช้กับคู่สกุลเงินประเภทต่าง ๆ โดยหัวข้อหลัก ๆ มีดังนี้:
การเทรดฟอเร็กซ์จะเกิดขึ้นเสมอเป็นรูปแบบของ คู่สกุลเงิน (forex pairs) หมายความว่าคุณกำลัง “ซื้อ” สกุลเงินหนึ่ง และ “ขาย” อีกสกุลหนึ่ง โดยแต่ละคู่จะประกอบด้วย:
- สกุลเงินฐาน (Base Currency) — สกุลเงินตัวแรกในคู่
 - สกุลเงินอ้างอิง (Quote Currency) — สกุลเงินตัวที่สองในคู่
 
ในกรณีของคู่ EUR/USD สกุลเงินยูโรคือ สกุลเงินฐาน และดอลลาร์สหรัฐคือ สกุลเงินอ้างอิง ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังเทรด EUR/USD ที่ราคา 1.10 หมายความว่า 1 ยูโรมีมูลค่าเท่ากับ 1.10 ดอลลาร์สหรัฐ หากคุณเชื่อว่ายูโรจะมีมูลค่าสูงขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ คุณควรซื้อ EUR/USD แต่หากคิดว่ามูลค่ายูโรจะลดลง คุณก็ควรขายออกแทน

ลองมาดูตัวอย่างการเทรดฟอเร็กซ์อย่างใกล้ชิด:
นี่คือตัวอย่างการเทรดฟอเร็กซ์แบบง่าย ๆ สมมติว่าคุณซื้อ EUR/USD ที่ราคา 1.10 ผ่านไปไม่กี่วัน ราคาขยับขึ้นเป็น 1.15 หมายความว่ายูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หากคุณขายในจังหวะนั้น คุณจะได้กำไร! มาดูรายละเอียดเพิ่มเติมกัน:
- สมมติคุณซื้อ 1,000 EUR/USD ที่ราคา 1.10 = $1,100
 - ราคาขึ้นไปที่ 1.15
 - ขายที่ราคา = $1,150
 - กำไร = $50
 
หากคุณอ่านมาถึงตรงนี้ แสดงว่าคุณได้เข้าใจพื้นฐานสำคัญของการเทรดฟอเร็กซ์แล้ว! แต่เช่นเดียวกับทุกสิ่ง ผลกำไรสูงย่อมมาพร้อมความเสี่ยงสูง ดังนั้นการศึกษาตลาดฟอเร็กซ์ให้เข้าใจก่อนตัดสินใจทางการเงินเป็นสิ่งจำเป็น ต่อไปเราจะพูดถึงประเภทของคู่สกุลเงินกัน
อะไรคือการเทรดฟอเร็กซ์ และมันทำงานอย่างไร: คู่สกุลเงินหลัก คู่รอง และคู่พิเศษ
คู่สกุลเงินในตลาดฟอเร็กซ์แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ คู่หลัก คู่รอง และคู่พิเศษ ตัวอย่างได้แก่:
- คู่หลัก (Major pairs): EUR/USD, USD/JPY, GBP/USD
 - คู่รอง (Minor pairs): EUR/GBP, GBP/JPY
 - คู่พิเศษ (Exotic pairs): USD/TRY, USD/ZAR
 
การเลือกคู่สกุลเงินที่เหมาะสมถือเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดของนักเทรด เพราะแต่ละคู่มีระดับความเสี่ยง ความผันผวน และพฤติกรรมตลาดที่แตกต่างกัน มาดูกันในรายละเอียดต่อไป:
1) คู่หลัก (Major Pairs)
คู่หลัก มักถูกจัดว่าเป็นคู่สกุลเงินที่ได้รับความนิยมและมีเสถียรภาพมากที่สุด ตัวอย่างของคู่หลักได้แก่:
- EUR/USD (ยูโร / ดอลลาร์สหรัฐ)
 - USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐ / เยนญี่ปุ่น)
 - GBP/USD (ปอนด์อังกฤษ / ดอลลาร์สหรัฐ)
 
ทำไมถึงเรียกว่า ‘คู่หลัก’? คู่หลักคือคู่สกุลเงินที่มีการเทรดมากที่สุดในโลก และมีลักษณะดังนี้:
- มีสภาพคล่องสูง (ซื้อขายได้ง่าย)
 - ส่วนต่างราคาซื้อขายแคบ (ต้นทุนการเทรดต่ำ)
 - สลิปเพจน้อย
 - มีข่าวสารและการวิเคราะห์จำนวนมากให้ติดตาม
 
มาดูข้อดีและข้อเสียของคู่หลักกัน:
ข้อดี:
- เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
 - ต้นทุนการเทรดต่ำเนื่องจากส่วนต่างราคาที่แคบ
 - การเคลื่อนไหวของราคานุ่มนวลและมีรูปแบบกราฟที่ชัดเจน
 
ข้อเสีย:
- ความผันผวนของราคาน้อยกว่า (คู่หลักมักเคลื่อนไหว “ช้า” สำหรับนักเทรดระยะสั้น)
 
หากคุณกำลังมองหาคู่สกุลเงินที่มีเสถียรภาพและเชื่อถือได้มากกว่า การเทรดคู่หลักอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะกับคุณ!
2) คู่รอง (Minor Pairs)
คู่รอง มักจะได้รับความนิยมน้อยกว่าคู่หลัก แต่มีการเคลื่อนไหวของตลาดมากกว่า ตัวอย่างของคู่รองได้แก่:
- EUR/GBP (ยูโร / ปอนด์อังกฤษ)
 - GBP/JPY (ปอนด์อังกฤษ / เยนญี่ปุ่น)
 - AUD/NZD (ดอลลาร์ออสเตรเลีย / ดอลลาร์นิวซีแลนด์)
 
คู่รองจะไม่มีดอลลาร์สหรัฐอยู่ในคู่ และแม้ว่าจะมีการเทรดน้อยกว่าคู่หลัก แต่ก็ยังมีการเคลื่อนไหวของราคาอยู่มาก มาดูข้อดีและข้อเสียของคู่รองกัน: 
ข้อดี:
- มีการเคลื่อนไหวของราคามากกว่าคู่หลัก
 - เหมาะสำหรับนักเทรดระดับกลางที่มองหาโอกาสนอกเหนือจาก USD
 
ข้อเสีย:
- มีส่วนต่างราคากว้างกว่าคู่หลัก
 - มีสภาพคล่องน้อยกว่าเล็กน้อย
 - อาจมีความอ่อนไหวต่อข่าวสารหรือการเมืองระดับภูมิภาคมากกว่า
 
คู่รองเหมาะสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์บ้างแล้ว เนื่องจากมีความผันผวนมากกว่าคู่หลักเล็กน้อย ดังนั้นหากคุณเป็นนักเทรดระดับกลางถึงขั้นสูง และต้องการขยายการเทรดออกนอกคู่ที่มี USD เป็นหลัก คู่รองอาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคุณ 
3) คู่พิเศษ (Exotic Pairs)
คู่พิเศษ ประกอบด้วยสกุลเงินหลักหนึ่งตัว และสกุลเงินของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่หรือขนาดเล็ก ตัวอย่างเช่น:
- USD/TRY (ดอลลาร์สหรัฐ / ลีราตุรกี)
 - USD/ZAR (ดอลลาร์สหรัฐ / แรนด์แอฟริกาใต้)
 - EUR/SEK (ยูโร / โครนา สวีเดน)
 
คู่พิเศษเป็นคู่ที่มีการเทรดน้อยที่สุด เนื่องจากมักมีพฤติกรรมของราคาที่คาดเดาได้ยาก และได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางเศรษฐกิจในประเทศนั้น ๆ มาก มาดูข้อดีและข้อเสียของคู่พิเศษกัน:
ข้อดี:
- การเคลื่อนไหวของราคามากกว่า = โอกาสทำกำไรสูงกว่า
 - เหมาะสำหรับนักเทรดระดับสูงที่ต้องการความผันผวนของตลาด
 
ข้อเสีย:
- ส่วนต่างราคาซื้อขาย (สเปรด) และค่าธรรมเนียมสูง
 - มีสภาพคล่องต่ำ
 - มีความเสี่ยงสูงและอาจเกิดการเคลื่อนไหวรุนแรงอย่างกะทันหัน
 - ได้รับผลกระทบจากความไม่มั่นคงทางการเมืองหรือภาวะเงินเฟ้อในตลาดเกิดใหม่
 
คู่พิเศษมีความผันผวนสูง แต่ด้วยประสบการณ์ที่เหมาะสม สามารถสร้างโอกาสในการทำกำไรที่มากกว่าได้ ดังนั้นหากคุณเป็นนักเทรดที่มีประสบการณ์และรับความเสี่ยงได้สูง การเทรดคู่พิเศษอาจเป็นสิ่งที่คุณสนใจ ตอนนี้เมื่อเราได้เรียนรู้ความหมายของฟอเร็กซ์ วิธีการทำงานของการเทรดสกุลเงิน และดูตัวอย่างการเทรดฟอเร็กซ์กันแล้ว มาทำความรู้จักอีกชั้นหนึ่งของตลาด นั่นคือการเทรด CFD 
ฟอเร็กซ์คืออะไรและทำงานอย่างไร: ความหมายของการเทรด CFD

สิ่งสำคัญสำหรับผู้เริ่มต้นคือการเข้าใจความหมายของ CFD ซึ่งย่อมาจาก Contracts for Difference หรือสัญญาซื้อขายส่วนต่าง เป็นข้อตกลงทางการเงินระหว่างคุณกับโบรกเกอร์ ในการเทรด CFD คุณจะไม่ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์จริง (เช่น หุ้นหรือสกุลเงิน) แต่คุณจะเก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์แทน เมื่อคุณเทรดฟอเร็กซ์ผ่านสัญญา CFD คุณกำลังทำสัญญาที่อิงตามการเคลื่อนไหวของราคาคู่สกุลเงิน ซึ่งหมายความว่าคุณตกลงที่จะแลกเปลี่ยนส่วนต่างระหว่างราคาของสินทรัพย์ในขณะที่เปิดและปิดการเทรด สรุปง่าย ๆ นี่แหละคือความหมายของ CFD Trading
คุณสามารถเลือกได้ว่า: 
- Long (ซื้อ) หากคุณเชื่อว่าราคาจะเพิ่มขึ้น
 - Short (ขาย) หากคุณเชื่อว่าราคาจะลดลง
 
มาดูตัวอย่างการเทรดฟอเร็กซ์โดยใช้ EUR/USD หากคุณเชื่อว่า EUR/USD จะเพิ่มขึ้น คุณสามารถเปิดคำสั่งซื้อ (“Long”) หากราคาขึ้นจริง จากการเทรด CFD คุณจะได้กำไรจากส่วนต่างระหว่างราคาที่เปิดและราคาที่ปิด แต่ถ้าราคาลดลง คุณจะขาดทุนจากส่วนต่างนั้น
ในทางกลับกัน หากคุณเชื่อว่า EUR/USD จะลดลง คุณสามารถเปิดคำสั่งขาย (“Short”) ในกรณีนี้ หากราคาลดลง คุณจะได้กำไร แต่ถ้าราคาเพิ่มขึ้น คุณจะขาดทุน
ต่อไปคือตัวอย่างเชิงปฏิบัติของการเทรดฟอเร็กซ์: 
- หากคุณซื้อ CFD บน EUR/USD ที่ราคา 1.1000
 - และปิดการเทรดที่ราคา 1.1200
 - คุณจะได้กำไร 200 pips (การเคลื่อนไหวของราคา 0.0200)
 
หากคุณเทรด 1 สแตนดาร์ดล็อต (100,000 หน่วย) การเคลื่อนไหวนั้นจะมีมูลค่า:
- $10 ต่อ pip × 200 pips = กำไร $2,000
 
หากราคาขยับไปในทิศทางตรงกันข้าม คุณจะขาดทุน $2,000 แทน
หากคุณเป็นมือใหม่ คุณอาจสงสัยว่า ‘pip’ คืออะไร ไม่ต้องกังวล เราจะอธิบายคำศัพท์ทั้งหมดในคอร์สนี้ต่อไป อ่านบทเรียนต่อใน EC Markets Academy แล้วคุณจะเข้าใจทั้งหมด! 
ฟอเร็กซ์คืออะไรและทำงานอย่างไร: คำจำกัดความของการเทรด CFD
หากคุณต้องการคำอธิบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับคำจำกัดความของ CFD นี่คือวิธีการเก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาในตลาด การเทรด CFD ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับการเทรดสกุลเงิน แต่เทรดเดอร์จำนวนมากยังใช้ CFD กับสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ เช่น:
ฟอเร็กซ์ (สกุลเงิน) – เช่น EUR/USD, GBP/JPY
ดัชนี – เช่น S&P 500, NASDAQ
สินค้าโภคภัณฑ์ – เช่น ทองคำ, น้ำมัน, ก๊าซธรรมชาติ
หุ้น – เช่น Apple, Tesla
คริปโตเคอร์เรนซี – เช่น Bitcoin, Ethereum
เมื่อคุณเข้าใจความหมายของ CFD Trading แล้ว คุณสามารถนำกลยุทธ์เหล่านี้ไปใช้ในทุกตลาดได้
ฟอเร็กซ์คืออะไรและทำงานอย่างไร: ประโยชน์ของการเทรด CFD
1) เลเวอเรจ (Leverage)
ข้อดีหลักของการเทรด CFD คือการใช้ เลเวอเรจ เลเวอเรจช่วยให้คุณเปิดสถานะที่มีมูลค่ามากกว่าทุนที่คุณมี ตัวอย่างเช่น หากใช้เลเวอเรจ 1:30 คุณสามารถควบคุมสถานะมูลค่า $3,000 ได้ด้วยเงินเพียง $100 การควบคุมสถานะที่ใหญ่ขึ้นหมายความว่าการเคลื่อนไหวของราคาที่เล็กน้อยก็สามารถสร้างกำไรได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เลเวอเรจก็มาพร้อมความเสี่ยงที่มากขึ้นด้วย เราจะศึกษาเรื่องนี้อย่างละเอียดในบทเรียนถัดไปของคอร์สนี้ 
2) การเปิดสถานะซื้อ (Long) หรือขาย (Short)
ในรูปแบบการลงทุนทั่วไป คุณจะได้กำไรเมื่อราคาขึ้น แต่ในการเทรด CFD คุณสามารถทำกำไรได้ทั้งจากตลาดขาขึ้นและขาลง หากคุณคิดว่าราคาจะขึ้น ให้เปิดสถานะ Long (ซื้อ) หากคิดว่าราคาจะลง ให้เปิดสถานะ Short (ขาย)
3) ไม่จำเป็นต้องถือครองสินทรัพย์จริง
การเทรด CFD ไม่จำเป็นต้องซื้อหรือถือครองสินทรัพย์จริง ทำให้การเทรด CFD รวดเร็วและยืดหยุ่นกว่าการลงทุนแบบดั้งเดิม
4) เข้าถึงสินทรัพย์หลายประเภท
คุณสามารถเทรด CFD ได้ในหลากหลายตลาดผ่านแพลตฟอร์มเดียว เช่น MT4 และ MT5 ซึ่งช่วยให้คุณสามารถกระจายพอร์ตการลงทุนและค้นหาโอกาสในหลายภาคส่วนได้ในที่เดียว
บทสรุป: มาสรุปกัน!

หากคุณอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คุณคงจะเข้าใจพื้นฐานของฟอเร็กซ์และการทำงานของตลาดฟอเร็กซ์ได้ดีขึ้นแล้ว
สรุปอีกครั้ง
ความหมายของฟอเร็กซ์:
- ความหมายของฟอเร็กซ์ (การซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ) คือกระบวนการซื้อและขายสกุลเงิน การเทรดฟอเร็กซ์จะเกิดขึ้นเป็นคู่เสมอ เช่น EUR/USD หรือ GBP/JPY โดยมีเป้าหมายเพื่อทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน
 - ตลาดฟอเร็กซ์เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดและมีสภาพคล่องสูงที่สุดในโลก
 - คู่สกุลเงินฟอเร็กซ์แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ คู่หลัก (Majors), คู่รอง (Minors) และคู่พิเศษ (Exotic pairs)
 - คู่หลักเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น เพราะมีความมั่นคงสูง มีสภาพคล่องดี และสเปรดต่ำ
 - คู่รองไม่รวมสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มักมีความผันผวนสูงกว่า เหมาะสำหรับนักเทรดที่รับความเสี่ยงได้มากขึ้น
 - คู่พิเศษประกอบด้วยสกุลเงินหลักหนึ่งสกุลและสกุลเงินจากเศรษฐกิจขนาดเล็กหรือเศรษฐกิจเกิดใหม่ มักมีความเสี่ยงสูงและไม่แน่นอน เหมาะสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์และต้องการเคลื่อนไหวในตลาดขนาดใหญ่
 
ความหมายของการเทรด CFD:
- คุณสามารถเทรดฟอเร็กซ์ได้โดยใช้สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (Contract for Difference - CFD) ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาโดยไม่ต้องถือครองสินทรัพย์จริง
 - ผู้เทรด CFD สามารถใช้เลเวอเรจเพื่อควบคุมสถานะที่มีมูลค่ามากกว่าทุนเริ่มต้น
 - การเทรด CFD ช่วยให้คุณสามารถทำกำไรได้ทั้งจากตลาดขาขึ้นและตลาดขาลง
 - CFD มอบความยืดหยุ่นมากกว่า โดยเปิดโอกาสให้เข้าถึงตลาดทั่วโลกได้ง่ายขึ้น
 - อย่างไรก็ตาม การเทรด CFD มีความเสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะหากมีการใช้เลเวอเรจโดยไม่บริหารจัดการอย่างเหมาะสม
 
สรุปประเด็นสำคัญ - ฟอเร็กซ์คืออะไรและทำงานอย่างไร?
1) ฟอเร็กซ์คืออะไรและทำงานอย่างไร?
การเทรดฟอเร็กซ์คือการแลกเปลี่ยนสกุลเงินหนึ่งกับอีกสกุลเงินหนึ่งในรูปแบบของคู่สกุลเงิน (เช่น EUR/USD) การทำกำไรหรือขาดทุนขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของราคาคู่สกุลเงินนั้น โดยคำนวณตามขนาดสถานะและเลเวอเรจ รวมถึงต้นทุนการเทรด
2) การเทรดสกุลเงินทำงานอย่างไร?
คือการซื้อสกุลเงินหนึ่งและขายอีกสกุลเงินหนึ่งพร้อมกัน กล่าวคือ คุณได้รับสกุลเงินหนึ่งโดยใช้สกุลเงินอีกหนึ่งในการชำระเงิน
3) ตัวอย่างง่าย ๆ ของการเทรดฟอเร็กซ์:
ตัวอย่างง่าย ๆ ของการเทรดฟอเร็กซ์คือ: หากคุณเชื่อว่ายูโรจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ คุณสามารถซื้อ EUR/USD ได้ เมื่อราคาขึ้นตามที่คาด คุณก็ปิดออเดอร์ และส่วนต่างระหว่างราคาเปิดกับราคาปิดจะเป็นตัวกำหนดกำไรของคุณ
4) ควรเทรดคู่สกุลเงินใดดี?
หากคุณเป็นมือใหม่ ควรเริ่มจากคู่หลัก หากมีประสบการณ์และรับความเสี่ยงได้มากขึ้น อาจลองคู่รอง และถ้าคุณเป็นนักเทรดที่มีประสบการณ์สูงและชอบตลาดที่มีความผันผวนสูง ควรลองเทรดคู่พิเศษ
5) ความหมายของการเทรด CFD:
CFD คือการเก็งกำไรจากการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของราคาสินทรัพย์ โดยที่คุณไม่ได้ถือครองสินทรัพย์จริง
ขอบคุณที่อ่านบทความ “ฟอเร็กซ์คืออะไรและทำงานอย่างไร” จนจบ ตอนนี้คุณน่าจะมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับฟอเร็กซ์มากขึ้น แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ยังมีกลยุทธ์อีกมากมายที่เราจะศึกษาเพื่อพัฒนาจากผู้เริ่มต้นไปสู่การเป็นนักเทรดที่มั่นใจ การเข้าใจการทำงานของตลาดสกุลเงินและความหมายของการเทรด CFD คือก้าวแรกสู่การเป็นนักเทรดฟอเร็กซ์ที่ประสบความสำเร็จ ติดตามหัวข้อถัดไปของเรา “การทำงานของตลาดฟอเร็กซ์”